ปลายปี 2022 ผมเริ่มเจอเสียงบ่นในโซเชียลของคนใช้ EV ที่รอที่คิวจะชาร์จอยู่ แต่คันที่กำลังอยู่ใน Charging Bay ก่อนหน้าที่ชาร์จเต็มแล้วหลายชั่วโมงก็ยังไม่ยอมมาขยับรถออกไป
เมื่อจำนวน Stations มีไม่พอ
ก็น่าจะเจอกันบ่อยขึ้นแน่ ๆ ครับ
เพิ่มเติม พอดีมีหลายคนถามผมถึงประเด็นเรื่อง
“ทำไมถึงไม่ชาร์จที่บ้าน ทำไมถึงต้องมาแย่งกันชาร์จข้างนอก?”
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011-2017 ผมเป็น Technology Partner ให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย ช่วงนั้นเราดูแลโครงการอสังหาอยู่ประมาณ 350 โครงการทั้งแนวราบ-แนวสูงทุกระดับราคา
ปี 2018 เราเปิด Corporate Venture Capital (CVC) โดยมีเงินลงทุนปีละ 1% จากยอดขายปีที่แล้วมาลงทุนกับ PropTech (ปีที่แล้วสี่หมื่นล้าน เราได้มาทำเรื่องนี้สามร้อยถึงสี่ร้อยล้าน) ซึ่งหนึ่งใน Initiatives ของเราคือการใส่ EV Chargers เข้าไปในอาคารที่เราส่งมอบไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน, หรือาจจะนานถึง 10 ปี, 20 ปี ซึ่งหลายร้อยโครงการในเมืองหลวงนี้เรามีลูกบ้านรวม ๆ ประมาณ 30,000 ครอบครัวอาศัยอยู่และเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจจะอยากซื้อ EV มาใช้กันเมื่อตลาดมันเริ่มคึกคัก
ความท้าทายใหญ่ที่สุดที่เราเจอในช่วงเวลานั้น ไม่ใช่เรื่องหัวชาร์จหรือ Power ของไฟฟ้า … แต่เป็นเรื่อง “คณะกรรมการนิติบุคคลที่ลูกบ้านตั้งขึ้นมา” ซึ่งมีเหตุผลกันตั้งแต่
ไม่อยากเสียที่จอดให้จุดชาร์จ
ไม่อยากจ่ายค่าหัวชาร์จ
ไม่พอใจส่วนแบ่งค่าไฟที่ได้จากการชาร์จ
เมื่อเจอแรงต้านเยอะจากกรรมการนิติบุคคลในช่วงหลังปี 2018 ลูกค้าบริษัทอสังหาของเราเลยตัดสินใจติดตั้ง EV Chargers เฉพาะที่โครงการใหม่เป็นรายแรกในประเทศไทย คือเลือกทำกับโครงการใหม่เป็นหลักเพื่อสร้างพร้อม Option นี้เลย และคิดเอาไว้ด้วยว่าอีกหน่อยที่อยู่อาศัยทั้งสามหมื่นถึงสี่หมื่นครอบครัวนี้น่าจะมีซัก 5% ที่อาจจะอยากใช้ EV กันเมื่อผ่านปี 2020 ไปแล้ว และจะมีปัญหาแรก ๆ ในช่วงตัดสินใจซื้อว่าถ้าซื้อ EV แล้วจะไปชาร์จที่ไหนเมื่อคอนโดไม่มีที่ชาร์จ?
จุดชาร์จสาธารณะจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ วันนี้ผมเห็นออฟฟิศหลายอาคารติดตั้งจุดชาร์จ, ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ที่จะทำให้คนที่อยู่คอนโดกลางเมืองหลายพันคนที่อยากใช้ EV ได้ใช้เป็นจุดชาร์จได้ครับ
Comentários