เช้านี้ผมอ่านเจอบทสัมภาษณ์ที่คุยเรื่อง "Artificial Superintelligence" หรือ AI ที่คิดได้ด้วยตัวเองอย่างมีเหตุมีผล ... ผู้ให้สัมภาษณ์บอกว่าเรากำลังเปลี่ยนจากที่เคยคิดว่า "เป็นไปไม่ได้" มาเป็น "จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่พวกเราเคยคิดเอาไว้" คำถามก็คือเราจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น?
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงเป็นได้แค่นิยาย Sci-Fi แต่ข้อความที่เกิดขึ้นนี้อยู่ในบทสัมภาษณ์กับ Ilya Sutskever คนที่เป็น Co-Founder และ Chief Scientist ของ OpenAI เจ้าของ ChatGPT บริษัทที่มีมูลค่าตลาดในตอนนี้ 80,000 ล้านเหรียญไปเรียบร้อยแล้ว และผู้สัมภาษณ์คือ MIT
Background
อิลยาเกิดในยุคโซเวียต-รัสเซีย พ่อแม่มาจากอิสราเอลและแคนาดา พอโซเวียตล่มก็ย้ายเขาไปอิสราเอลตั้งแต่ห้าขวบ จนเรียนมหาวิทยาลัยเปิด(ที่ใครจะเรียนจากที่ไหน เรียนเมื่อไหร่ก็ได้) ในปี 2000 แล้ว 2002 ก็เข้าเรียนจริงจังที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดา ... Foundation เรียบร้อย Direction ชัด หลังจากนี้ก็พุ่งเป็นจรวดเลย
เขาเข้าร่วมวิจัยร่วมกับอาจารย์ของเขาคือ Geoffrey Hinton ผู้ที่ทุกวันนี้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่ง AI และ Alex Krizhevsky ลูกศิษย์อีกคนที่เป็นเบอร์หนึ่งของโลกในเรื่อง Computer Vision ... งานวิจัยของทั้งสามคนกลายเป็นบริษัท Startup ที่ Google ซื้อเทคโนโลยีของพวกเขาไปใช้เป็นตัวตั้งต้นทำให้เราค้นรูปด้วยภาพได้ ... และอีกหลาย ๆ บริษัทหลังจากนั้น
อิลยาทำงานวิจัยให้ Google หลายต่อหลายชิ้นที่เป็นส่วนหนึ่งของ Google Brain และ DeepMind
Concern
ไม่แปลกที่อิลยาพูดถึงเรื่องความกังวลของเขาเกี่ยวกับ Artificial Superintelligence ในตอนนี้ ซึ่งดูระดับความกังวลอยู่ในระดับเดียวกับอาจารย์ของเขาจอฟฟรีย์ ฮินตัน ที่พูดถึง Rouge Superintelligence หรือการที่ AI แพร่หลายมาก ๆ จนกระทั่งผู้พัฒนาที่ไม่ระมัดระวังแต่รีบระดมทุนมาแข่งขันในตลาดจะทำให้เกิดกระบวนการที่ทำให้ควบคุมปัญญาประดิษฐ์ได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ... และอาจจะถึงขั้นปิดมันไม่ได้
เขาถามว่า "ถ้ามนุษย์เราให้ความสำคัญกับปัญญามากกว่าคุณสมบัติอื่น เราจะโตมาแบบไหน?" ดูเหมือนเราจะไม่ค่อยใช้ Empathy ที่เราพูดถึงกันเยอะ ๆ ... "The perfect has destroyed much perfectly good good." หนึ่งในทวีตของเขาปีที่แล้ว
The Glimpse
ตอนนี้อิลยากำลังทำให้ AI รองรับความต้องการของมนุษย์ (Matched) แต่หลังจากนี้มันกำลังจะเข้าใจมากกว่าความต้องการ (Outmatched) หรือเห็นในสิ่งที่มนุษย์ยังไม่เห็นก่อนที่จะเกิดเป็นความต้องการเสียอีก และนั่นจะเป็นจุดกำเนิดของ Artificial Superintelligence ... "เราเคยเห็นมันมาแล้ว หมาก 37 ของกระดานที่สองนั่นไง" อิลยาบอก
ปี 2016 วันที่ AlphaGO ปัญญาประดิษฐ์ที่เล่นหมากล้อมเอาชนะแชมป์โลกอย่าง Lee Sedol กระจุยถึง 4-1 กระดาน ... มีบางหมากที่อยู่ในขั้นเลื่องลือ ... หมาก 37 ในกระดานที่สอง เมื่อเซดอลพยายามอย่างมากจะเอาชนะเพื่อตืคืนซักกระดาน เซดอลเปิดฉากมาดี ต่างคนต่างวางคนละ 18 หมากเรียบร้อย เซดอลดูจะเอาจริง ... AI แกล้งเดินหมากที่ 19 ให้เห็นว่าพลาด แต่สิ่งที่มันทำกลายเป็นความจงใจที่จะทำในสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึง เพราะมันรู้ว่าเซดอลจะบุกใส่เลย ... หมากนี้ทำให้กระดานที่สองจบลงที่ AI ชนะอีกเป็น 2-0 และทำลายความมั่นใจของเซดอลอย่างรุนแรง ... หมาก 37 ถูกบันทึกเอาไว้ว่าเราเห็นความ Creative ของมันที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเอาชนะมนุษย์ได้
วูบนึงของการเห็น Artificial Superintelligence วูบต่อ ๆ ไปก็คงจะเกิดขึ้นอีก